What can we help you with?
รู้หรือไม่ : การขับรถตอนกลางคืนเสี่ยงพอๆ กับเมาแล้วขับ !

ปัจจุบัน การ‘เมาแล้วขับ’ ยังครองแชมป์ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงที่สุดของประเทศไทย เรื่องนี้ผู้ขับขี่ทุกคนคงทราบดี แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นที่อันตรายพอๆ กันแต่มักจะถูกมองข้ามไปนั่นคือ การหลับในขณะขับรถยนต์
โดยธรรมชาติ...ยามค่ำคืนเป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การพักผ่อน แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของโลกยุคใหม่โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกรุงเทพซึ่งมีทั้งปัญหาการจราจรและหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้กว่าจะขับรถกลับถึงบ้านก็มืดค่ำปาเข้าไป 3-4 ทุ่มกันจนเป็นเรื่องปรกติเมส่งผลให้อาการเมื่อยล้าจากการขับรถที่สะสมวันต่อวันอาจทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงได้
การขับรถตอนกลางคืนกับผลเสียที่เราไม่คาดคิด!
ล่าสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอูเทรคต์ในเนเธอร์แลนด์ทดลองให้อาสาสมัครชายสุขภาพดีอายุ 21-25 ปี จำนวน 14 คนขับรถต่อเนื่อง 2, 4 และ 8 ชั่วโมงตอนกลางคืน โดยกำหนดรักษาระดับความเร็วไว้ที่ 80 ไมล์ (128 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมงและต้องขับอยู่กลางเลน เมื่ออาสาสมัครขับรถไป 2 ชั่วโมง พบว่าส่วนใหญ่ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลงและมีความผิดพลาดเท่ากับเมื่อมีแอลกอฮอล์ในเลือด 0.05% หรือเท่ากับการดื่มเบียร์ 1 กระป๋องซึ่งเป็นระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตามกฎหมายกำหนดสำหรับผู้ขับขี่ในประเทศไทยที่ผ่านด่านตรวจได้แบบคาบเส้นพอดี แต่หากยังขับรถต่อไปจนถึง 3 ชั่วโมงจะกลายเป็นผิดพลาดเทียบเท่ากับมีแอลกอฮอล์ในเลือด 0.08% หรือ และ 4 ชั่วโมงเท่ากับ 0.10% ตามลำดับ จากผลวิจัยดังกล่าว นักวิจัยจึงเสนอให้ภาครัฐออกกฎหมายจำกัดการขับรถต่อเนื่องตอนกลางคืนไม่ให้เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและอัตราการเสียชีวิต เพราะจากสถิติในประเทศเนเธอร์แลนด์ประมาณการณ์ว่า 1 ใน 5 ของอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งหมดเกิดจากคนขับง่วงหรือหลับใน