บ้านอ้อมกอดขุนเขา (สวนผึ้ง) พระเจ้า บ้านหลังใหญ่ ห้องน้ำไม่มีประตู

รีวิวย้อนหลังถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเสียหน่อย (ย้อนหลังหลายเดือนเลย) เรียกว่าเล่าดีกว่าเนอะ รู้สึกว่าตั้งแต่ต้นปีมานี้ ทำงานได้เดือนกว่าๆ ตอนนี้เริ่มขี้เกียจซะแล้ว ทำไมเวลาของการทำงานช่างยาวนานจริงๆ ไม่เหมือนเวลาในวันหยุดเลยเนอะ ผ่านไปไว๊ไว
กำลังนั่งคิดว่าต้นปีแบบนี้จะไปไหนดี คิดไม่ค่อยออกเลย อยากไปเที่ยวก็อยากไป แต่ไม่ชอบอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย จะไปทะเลเหรอ ตัวยิ่งดำๆ อยู่ ร้อนด้วย เหนียวตัวด้วย คิดถึงป่าเขาลำเนาไพรมากกว่า
แต่ไปช่วงร้อนๆ ป่าเขาก็ใช่ว่าจะสวยหรือบรรยากาศดี หลายแห่งก็ดูแห้งแล้งเลยล่ะ จำได้เคยไปสวนผึ้งตอนปีใหม่เมื่อปีก่อน ไปถึงตอนกลางวัน อากาศกำลังร้อนๆ เลย ไปถึงแล้วไม่ประทับใจเลย อาจจะเป็นเพราะกำลังทำถนนด้วยมั้ง เลยทำให้ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว ประกอบกับอากาศร้อน เลยดูแห้งแล้งต้นไม้ใบหญ้าก็ดูไม่ค่อยจะสดชื่น ครั้งนั้นก็เลยไม่ได้นอนพัก เปลี่ยนใจขับรถกลับ
มีโอกาสไปอีกครั้งช่วงปลายปี 2556 กำลังเป็นช่วงหน้าฝนพอดี ปลายๆ ฤดูฝนแล้วล่ะ โอ้โห คราวนี้รู้สึกประทับใจมาก อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนกับสีเขียวชอุ่มของใบไม้ เห็นแล้วสดชื่นจริงๆ ต่างกับครั้งก่อนเลย มานั่งคิดๆ ดูก็ไม่แน่ใจว่าต้นปี อากาศร้อนๆ แบบนี้จะไปดีไหม ไม่แน่ว่าช่วงเดือนกุมภาพันธ์แบบนี้ สถานที่ใกล้ๆ ป่า ใกล้ๆ เขา อาจจะยังอากาศดีอยู่ก็ได้ และสวนผึ้งก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก เดี๋ยวลองขับรถไปสังเกตุการณ์ดูเสียหน่อยดีกว่า
ถ้าได้ไปจะมาบอกนะครับว่าอากาศที่สวนผึ้งช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ครั้งนี้ขอเล่าถึงครั้งนั้นก่อนว่าไปพักที่ไหนมาและเป็นอย่างไรบ้าง
ครั้งนั้นไปกันตามประสาชายล้วน ไปกันเป็นก๊วนเก (เร) หนีแฟนกันไปรวมทั้งสิ้น 6 คน จองบ้านพักหลังใหญ่ที่บ้านอ้อมกอดขุนเขาเอาไว้ เป็นที่พักแบบ บ้านหลังใหญ่ 2 ห้องนอน พักได้ 4 คน และสามารถเสริมได้อีก 2 คน เท่ากับว่าลงตัวพอดี เพราะไปกัน 6 คน 3 คู่ วันนั้นไปพักกัน 2 วันคือ อาทิตย์-จันทร์ ค่าที่พัก 5,000 บาท
ถ้าเป็น บ้านหลังใหญ่ ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว เพิ่มอีกแค่พันเดียวเอง น่าเสียดาย เพื่อนจองแบบที่ไม่มีสระเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงจะได้ปาร์ตี้ทูพีซริมสระกันสนุกสนาน 555 ทันทีที่มาถึงก็ชอบที่พักแห่งนี้ เป็นไปตามคำบอกเล่าของเพื่อนในกลุ่มที่เคยมามาก่อน ทั้งแบบบ้านที่ดูชิวชิว สภาพแวดล้อมของรีสอร์ททั้งละแวกบ้านพัก และสภาพแวดล้อมโดยรวมก็โอเค ที่นี่แหละ เหมาะแล้วที่พวกเราจะไปตั้งวงกัน
ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องพัก ก็พึงพอใจ เป็นไปตามที่คุยไว้ เข้าไปก็จะเป็นห้องโถงกว้างๆ มีพื้นที่พอประมาณ เพียงพอสำหรับการนั่งดื่มกินในค่ำคืน สองข้างซ้ายชวาเป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว พร้อมห้องน้ำในตัว แต่สิ่งที่น่าตกใจกับการเดินทางไปค้างแรมกันแบบชายล้วนกลุ่มใหญ่แบบนี้คือ ประตูห้องน้ำของห้องพักทั้ง 2 ห้อง ไม่มีประตู มีแต่ผ้าม่านบางๆ ปิดบังสายตาแค่นั้น
วางสัมภาระเสร็จสรรพก็ตั้งวงกันทันที ไม่มีใครคิดจะไปเดินสำรวจหรือสัมผัสบรรยากาศของรีสอร์ทเลยสักคน จริงๆ พักที่ไหนก็ได้นะเนี่ย และเป็นไปตามคาด คืนนั้นไม่มีใครอาบน้ำเลยสักคน ผมเองอาศัยว่าตื่นเช้าหน่อย รีบอาบก่อนคนแรก คนอื่นๆ ก็ทยอยกันอาบโดยปิดประตูห้องนอนเลย จริงๆ ก็ไม่มีใครคิดว่าจะทำอะไรใคร (เห็นกันมาไม่รู้เท่าไรแล้ว 55) เพียงแต่อำกันสนุกๆ ตามประสาเพื่อนก็เท่านั้น
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็ไปเดินสำรวจรีสอร์ทเสียหน่อย ตอนที่มานึกว่ารีสอร์ทจะมีพื้นที่ไม่มาก ที่ไหนได้ล่ะ กว้างทีเดียวเลย เมื่อเดินไปตามทางลาด ลงไปก็จะได้เห็นสนามหญ้ากว้างๆ มีลำธารหรือน่าจะต้องเรียกว่าลำห้วยเล็กๆ ด้วย เมื่อไปยืนอยู่ตรงพื้นที่ด้านล่างถึงได้รู้ว่าทำไมถึงตั้งชื่อว่า บ้านอ้อมกอดขุนเขา
เป็นรีสอร์ทแรกที่ผมมีโอกาสได้ไปพักที่สวนผึ้ง สำหรับสถานที่และบรรยากาศของรีสอร์ทถือว่าประทับใจ ผิดจังหวะไปนิดเดียว ถ้ารู้ว่าห้องพักเป็นแบบนี้มากับแฟนดีกว่า ไม่น่ามาเป็นก๊วนเก (เร) แบบนี้เลย
อ้อ ถ้าใครชอบขับรถกินลมชมวิว เส้นทางเลยรีสอร์ทขึ้นไปจะเป็นเส้นทางขึ้นเขา มีถนนที่สวยงามและบรรยากาศดี ไปขับรถเล่นชิวๆ ได้ ถ้าไปตอนหน้าฝนแบบผมก็ขับระวังๆ หน่อย ไม่ต้องซิ่งมาก เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุได้ เรื่องอบุติเหตุทางรถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าสนใจทำประกันภัยรถยนต์สามารถซื้อผ่าน DirectAsia ประเทศไทยได้นะครับ