What can we help you with?
เติมน้ำมันผิด เครื่องยนต์จะวิกฤตแค่ไหน แก้ยังไงดี?

เติมน้ำมันรถผิด ชีวิตเปลี่ยน! แม้จะดูเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ หรือเสียหายไปจนถึงร้ายแรงได้ วันนี้ DirectAsia อยากชวนเจ้าของรถทุกคนไปทำความรู้จักอาการของรถเติมน้ำมันผิด... ที่คุณสังเกตได้เองและควรรู้ไว้! พร้อมวิธีรับมือเบื้องต้น

อาการสังเกต เติมน้ำมันรถผิดจะเป็นยังไง ?
แม้ประเภทน้ำมันรถ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีหลากหลายตัวเลือกให้ได้ใช้ แต่เครื่องยนต์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์ไฮบริดและเครื่องยนต์ไฟฟ้า การที่เราเติมน้ำมันผิดประเภทจึงทำให้เครื่องยนต์ออกอาการมีปัญหาได้เกือบจะในทันที ดังนี้- รถสตาร์ทติดยาก ไม่ว่าคุณจะเผลอเติมน้ำมันรถผิดจากเบนซินไปเป็นดีเซล หรือจากดีเซลไปเป็นเบนซิน สิ่งแรกที่คุณจะรู้สึกได้ว่ารถยนต์กำลังมีปัญหา คืออาการรถสตาร์ทติดยากอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากระดับการเผาไหม้น้ำมันแต่ละชนิดที่ต่างกัน ทำให้เครื่องยนต์สะดุดและมีปัญหา โดยเฉพาะตอนสตาร์ทรถยนต์ใหม่ๆ
- เครื่องยนต์มีเสียงดัง ผลพวงจากกระบวนการเผาไหม้ที่ผิดปกติ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งที่ช้ากว่าปกติ และไม่สามารถทำรอบความเร็วได้ตามสมรรถนะที่ควรจะเป็น จนมีเสียงดังขณะเร่งความเร็วเกิดขึ้นได้
- ระบบไฟแจ้งเตือน หากคุณไม่ทันได้สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดจากการเติมน้ำมันผิดไป ยังมีระบบไฟแจ้งเตือนที่จะขึ้นโชว์เพื่อบอกว่าเกิดความผิดปกติที่เครื่องยนต์ ซึ่งหากเราขับรถต่อไปสักพักก็จะพบกับอาการกระตุกและรถดับได้ในที่สุด

อาการมันใช่! เติมน้ำมันรถผิดแล้วแก้ยังไงได้บ้าง...
เติมน้ำมันรถผิด อาจเป็นเพราะเด็กปั๊มเติมให้ผิด ก็ให้รีบบอกกับเด็กปั๊มทันที เพื่อที่ทางปั๊มน้ำมันจะได้รับผิดชอบ แต่ถ้าเป็นความเผอเรอจากตัวเราเอง งานนี้ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองไปก่อน ดังนี้- ไล่ระบบน้ำมันก่อนเติมน้ำมันที่ถูก ทันทีที่รู้ตัวว่าเติมน้ำมันรถผิด สิ่งแรกที่ห้ามทำคือ ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด! แต่ให้ดูดเอาน้ำมันเครื่องที่เติมผิดออกจากถังให้หมดก่อน แล้วค่อยๆ ไล่ระบบน้ำมันใหม่ทั้งหมด
- ทำความสะอาดเครื่องยนต์ หลังไล่ระบบน้ำมันที่เติมมาผิดออกทั้งหมดแล้ว ให้เริ่มต้นทำความสะอาดเครื่องยนต์เป็นขั้นตอนต่อไป โดยให้ไล่ทำความสะอาดตั้งแต่ไส้กรองและหัวเทียนแล้วค่อยเติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปในถัง
- ทดสอบการขับ จากนั้นให้สตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ไม่มีจุดที่มีปัญหา แล้วลองเร่งเครื่องขึ้นทีละนิด พร้อมเปิดเช็กระบบการทำงานของรถยนต์ต่างๆ ที่ทำงานตอนเครื่องสตาร์ทอยู่ หากระบบทำงานเป็นปกติไม่มีติดขัด หรือไม่มีเสียงแปลกๆ ก็แสดงว่ารถยนต์ไม่ได้เสียหาย พร้อมหาเวลาพารถไปตรวจสภาพด้วยจะดีที่สุดนั่นเอง
- สังเกตอาการพวงมาลัยล็อค อันตรายระหว่างขับขี่ไม่ควรมองข้าม!
- 10 วิธีขจัด กลิ่นอับในรถ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ทำง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
- น้ำท่วมรถ แต่ทำไมประกันถึงไม่ให้เคลม…ส่วนนี้?