5 สิ่งที่คุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขับรถ

ขับรถแบบนี้มันถูกหรือเปล่านะ เรื่องบางเรื่องพี่กู๊ดเชื่อได้ว่าคนขับรถหลายคนอาจจะคุ้นชินจากการบอกเล่าถึงวิธีการขับ อย่างเช่นการเปิดไฟฉุกเฉินผ่านทางแยก เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้ทุกแยกจริงหรือเปล่านะ บทความนี้พี่กู๊ดรวบรวมคำตอบให้กับเรื่องที่คนหลายคนมักเข้าใจผิดมาฝากให้ทุกคนได้รับรู้แล้วเข้าใจตรงกัน แล้วขับรถกันอย่างถูกต้องนะครับ 😊

ความเชื่อแบบผิดๆ อย่าทำตามเด็ดขาด

1. ไฟฉุกเฉินพร้อมลุยทุกสถานการณ์

ไฟฉุกเฉินนั้นเป็นไฟสัญญาณที่ทำงานโดยใช้การกะพริบของไฟเลี้ยวข้างพร้อมกัน อาจจะทำให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นเกิดความสับสนใจในการให้ไฟสัญญาณได้ เช่น คุณจะตรงแต่เปิดไฟผ่าหมากเหมือนจะเลี้ยวซ้าย ทำให้สุดท้ายเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ควรใช้งานไฟฉุกเฉินเมื่อจอดรถและต้องการแสดงสัญญาณว่าให้ระวัง รวมถึง เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ หรือบกพร่องทางเทคนิค บนถนน ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ครับ กรณีนอกเหนือจากนั้นไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน

2. ไฟตัดหมอกจำเป็นทุกช่วงเวลา

นอกจากไฟฉุกเฉินแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องใส่ใจ คือ การเปิดไฟตัดหมอกวิ่งตลอดเวลาที่อาจพบเจอบนท้องถนน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการรบกวนสายตารถที่วิ่งสวนทางมาและอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยจะมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

3. วิ่งขวาได้ ถ้าความเร็วเราถึง

บางครั้งที่เราขับรถยนต์บนท้องถนนจะพบว่าบางคันขับชิดขวาตลอดทาง ถึงแม้ข้างหน้าจะว่างก็ยังคงแช่ขวาอยู่ ซึ่งตามจริงแล้วกฎหมายกำหนดว่า “รถช้ากว่าคันอื่นชิดซ้าย” อธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า หากรถคันที่วิ่งขวาอยู่ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดแล้วก็ตาม เมื่อเห็นว่าทางด้านซ้ายว่างก็ควรกลับเข้าสู่ช่องทางซ้ายเสมอ หากไม่ทำตามจะถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย

1. มาตรา 34 บัญญัติไว้ว่าถนนที่มีการแบ่งเส้นจราจรมากกว่า 2 เลนขึ้นไป ผู้ขับขี่ต้องขับชิดขอบทางด้านซ้าย หากไม่ปฏิบัติตามอาจโดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
2. การขับรถกีดขวางทางจราจร โทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท

4. ไหล่ทางว่าง ขอแซงสักหน่อย

ถึงไหล่ทางจะว่าง แต่เราไม่มีสิทธิ์ขับไปเลนนั้นนะครับ เพราะบริเวณไหล่ทางนั้นเป็นช่องทางสำหรับรถฉุกเฉิน รถเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับความปลอดภัย หรือว่ารถจอดเสียชั่วคราวเท่านั้น การแซงไหล่ทางจึงอันตรายมากเพราะเสี่ยงต่อรถที่ออกจากฝั่งซ้าย และรถที่ออกมาจากทางขวาเพื่อเบี่ยงซ้ายเข้าถนนหรือเข้าซอยที่อาจจะมองไม่เห็นจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

5. เกียร์ “P” เพื่อนซี้เมื่อติดสัญญาณไฟ (เกียร์อัตโนมัติ)

รู้หรือไม่ว่าการจอดรถติดสัญญาณไฟแดงไม่ควรเข้าเกียร์ “P” ไว้ เพราะมีความเสี่ยงต่อการเสียหายของระบบล็อกในชุดเกียร์ในกรณีที่มีรถมาชนท้าย และทำให้ชุดเฟืองล็อกเสียหายได้ แล้วถ้าติดไฟแดงนานๆ ต้องทำยังไงดีล่ะ?

พี่กู๊ดแนะนำให้เลื่อนเกียร์มาตำแหน่ง “N” และดึงเบรกมือไว้ก็เพียงพอแล้วครับ

เข้าใจถูกแล้วทำต่อไป!

วงเวียนไปก่อน แยกอื่นรอต่อไป

มือใหม่หัดขับรถเจอวงเวียนทีไรอาจงงได้ ว่าเมื่อไหร่เราถึงจะไปได้นะ แล้ววงเวียนไปก่อนนี่ถูกต้องหรือเปล่า พี่กู๊ดขอตอบตรงนี้เลยครับว่าถูกต้องแล้ว ทั้งนี้ เทคนิคง่าย ๆ เกี่ยวกับการขับรถ เข้าวงเวียนนั้น คือ ให้รถในวงเวียนไปก่อน เมื่อรู้เส้นทางแน่นอนที่เราจะไป หรือว่าถนนที่จะเลี้ยว เมื่อเห็นว่า รถว่าง จึงให้สัญญาณไฟเลี้ยว แล้วค่อย ๆ ขับเข้าวงเวียน โดยยึดเลนที่เราต้องการจะไปครับ แต่เมื่อถึงช่วงใกล้ทางแยกของวงเวียนเพื่อเปลี่ยนเลนถนนนั้น เราต้องเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวและ เปลี่ยนเลนอย่างระมัดระวัง แต่ถ้ามันกระชั้นชิด เปลี่ยนเลนไม่ทันจริงๆ พี่กู๊ดอยากให้ขับวนในวงเวียนอีกครั้งจึงค่อยเปลี่ยนเลน มากกว่าการขับเบียดหรือปาดหน้ารถคันอื่น ๆ เพราะอาจมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมากๆ เลยล่ะครับ

ทวนกฎหมายจราจรเบื้องต้นกันหน่อย

นอกเหนือจากการขับรถในสถานการณ์ต่างๆ และสภาพรถแล้วนั้น ยังมีเรื่องพื้นฐานที่ควรรู้ แต่หลายคนอาจจะหลงลืมไป พี่กู๊ดได้รวบรวมมาให้แล้ว ลองมาเช็กกันสักหน่อยว่าเรายังทำถูกต้องเรียบร้อยเหมือนเดิมทุกข้ออยู่หรือเปล่า?

• สัญญาณและเครื่องหมายจราจร

ไฟจราจร 3 สีต้องจำให้แม่น แต่ที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ไฟสีเหลืองนั้นคือการให้เตรียมหยุดไม่ใช่เตรียมเร่ง และสีแดงคือให้หยุดหลังเส้นให้หยุดรถเท่านั้น หากคุณจอดเลยเส้น หรือฝ่าไฟแดงไปล่ะก็ ก็เตรียมรับรูปสวย ๆ จากกรมขนส่งถึงพฤติกรรมที่คุณทำถึงบ้านเลยทีเดียว กรณีที่เป็นไฟแดงกะพริบที่ทางแยก ให้ชะลอรถหยุดแล้วมองทางให้มั่นใจว่า ปลอดภัยแล้วจึงค่อยขับต่อไป

• การใช้ไฟหรือเสียงสัญญาณ

อย่างที่พี่กู๊ดกล่าวไว้เบื้องต้นแล้วว่าไม่ควรเปิดไฟตัดหมอกพร่ำเพรื่อ กรณีแสงสว่างไม่พอ มองเห็นได้ไม่ชัดเจนในระยะ 150 เมตร ก็ควรเปิดไฟหน้ารถ และเมื่อบีบแตรก็ควรมีเสียงดังไกลไม่น้อยกว่า 60 เมตร เพื่อส่งเสียงไปยังสิ่งกีดขวางข้างหน้า หากเป็นกรณีที่ทัศนวิสัยไม่ดี เช่น มีหมอกหรือควันหนา หรือขับขี่ในทางมืด ๆ ที่ไม่มีรถสวนทางมา ก็จะใช้ไฟตัดหมอกได้

• การขับแซง

ก่อนแซงจะต้องให้สัญญาณรถคันหน้าก่อน โดยการแซงจะต้องแซงในเลนขวาเท่านั้น รักษาระยะห่างพอสมควร เมื่อแซงผ่านแล้วก็ต้องเข้าเลนซ้ายทันที อย่าขับแช่ขวาเป็นอันขาด ทั้งนี้ ห้ามแซงคันที่กำลังเปิดไฟเลี้ยวขวา และห้ามแซงขณะรถขึ้นสะพาน อยู่ทางโค้ง หรืออยู่ในเส้นทึบ หรือถ้ามองข้างหน้าไม่เห็น ทัศนวิสัยไม่ดีก็ไม่ควรแซงเช่นกัน

• การหยุดรถและจอดรถ

ควรหยุดหรือจอดรถในทางที่ปลอดภัยไม่กีดขวางผู้อื่น ถ้าอยากจะทานของอร่อยริมทาง ควรจอดรถชิดซ้ายกับขอบทางในระยะห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร ห้ามจอดรถบนทางเท้า บนสะพาน ในอุโมงค์ ทางแยก หรือตรงที่มีป้ายห้ามจอดนะครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มีเรื่องไหนที่คุณไม่รู้ หรือรู้แล้วลืมจนเผลอทำผิดไปบ่อย ๆ บางหรือเปล่า พี่กู๊ดหวังว่าทุกคนที่ได้อ่านเรื่องเหล่านี้แล้วจะขับรถกันถูกต้องมากขึ้น เพราะการขับขี่ที่ถูกต้องไม่เพียงจะช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติให้กับตัวคุณแล้ว ยังช่วยทำให้สภาพการจราจรที่ติดขัดไหลลื่นกว่าเดิมได้อีกด้วยนะครับ

ตั้งสติก่อนสตาร์ทแล้วขับขี่อย่างตั้งใจกันทุกคนนะครับ 😉

สอบถามข้อมูลหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อไดเร็คเอเชีย

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องประกันรถยนต์พร้อมเช็คราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และประกันชั้น3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด