What can we help you with?

การบํารุงรักษารถยนต์หลังจากวันหยุดยาว

การดูแลรถหลังจากเที่ยวในวันหยุดยาว

การบํารุงรักษารถยนต์หลังท่องเที่ยวช่วงวันหยุด

ล้อรถ น้ำกลั่นแบตเตอรี่ กระจกรถ
สีรถ สายพาน เบาะนั่ง
เครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ผ้าบุหลังคา
น้ำมันต่างๆ โช้คอัพรถยนต์ พื้นรถ

พารถออกไปตะลุยเที่ยวในวันหยุดยาวกันมาแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่จะต้องมาตรวจเช็คสภาพรถของคุณกันหน่อยนะคะ ว่ามีจุดไหนต้องดูแล ซ่อมแซม และทำความสะอาดกันบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำเบื้องต้นมาฝากค่ะ

ล้อรถ

ให้เช็คยางรถทั้ง 4 ล้อของรถ ว่ามีรอยบาดจากโลหะ, ของมีคม หรือไปเหยียบเข้ากับของแหลมจนล้อมีรอยรั่วหรือไม่? ถ้ามีต้องเอาไปให้อู่ซ่อมนะคะ หรือถ้าไม่มีรอยรั่ว จุดต่อไปที่ควรต้องตรวจเช็คก็คือ ลมยาง ค่ะ ว่ามีปริมาตรตามอัตราตรงตามที่กำหนด ของรถแต่ละชนิดหรือเปล่า โดยปริมาตรนี้จะมีระบุบอกไว้ในแผ่นโลหะ หรือสติ๊กเกอร์ที่ติดไว้บริเวณสันประตู หรือเสากลางข้างตัวรถ หรือติดไว้ในช่องเก็บของภายในรถ หรือไม่ก็มีระบุไว้ในหนังสือคู่มือการใช้รถ ลองเช็คกันดูนะคะ สำหรับวิธีการเช็คก็ทำได้หลายวิธี อาจจะซื้อเกจวัดความดันยางมาวัดเอง หรือใช้เกจวัดความดันยางที่จุดบริการใกล้บ้านวัดก็ได้ค่ะ

สีรถ

คราบสกปรกต่างๆรอบตัวรถ เช่น มูลนก, ฝุ่น, เขม่า, และแมลง อาจจะทำให้สีรถเสียหายได้ ถ้าเราทิ้งไว้นานๆ ควรรีบล้างให้สะอาดทั่วทั้งคัน แล้วควรตรวจดูเพิ่มเติมว่ามีรอยขีดข่วนตรงไหนหรือเปล่า จุดไหนมีรอยบุบ จะได้ส่งอู่เพื่อซ่อมต่อไปค่ะ

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ส่วนต่างๆ ตรวจเช็คพวกน้ำมันหล่อลื่นต่างๆ ในห้องเครื่อง เช่น น้ำมันเบรก ว่าปริมาณลดลงไหม เพราะบางคนหยุดยาวที่ผ่านมาขับรถไปเที่ยวขึ้นเขาขึ้นดอย ต้องคอยเหยียบเบรกเกือบตลอดเวลาที่ขับรถเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล ซึ่งจะทำให้น้ำมันเบรกถูกใช้งานเยอะและอาจลดลงได้ค่ะ

น้ำมันต่างๆ

  • น้ำมันเครื่อง ดูว่ายังมีอยู่ในระดับที่พอกับการใช้งานหรือเปล่า ถ้าระดับอยู่ระหว่าง F กับ L แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติดีอยู่ค่ะ
  • น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ก็ควรเช็คว่าอยู่ในขีดที่กำหนดไว้หรือเปล่า หรือมีรอยรั่วซึมตรงไหน
  • น้ำมันเกียร์ ก็สำคัญนะคะ เพราะถ้าระดับน้ำมันเกียร์ต่ำเกินไป การหล่อลื่นก็อาจจะไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดการเสียดสีของกลไกภายในเกียร์เพิ่มขึ้นได้

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์

น้ำกลั่นแบตเตอรี่

น้ำกลั่นแบตเตอรี่ ก็ตรวจเช็คว่ายังมีอยู่เต็มทุกช่องไม่ขาด

สายพาน

ตรวจดูค่ะว่ามีรอยฉีกขาดตรงไหนหรือเปล่า หม้อน้ำ ให้ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อพักน้ำด้วยว่ายังไม่หมด และควรทำในขณะที่เครื่องเย็นอยู่นะคะ สุดท้ายตรวจเช็คบริเวณใต้กระโปรงหน้ารถ ว่ามีรอยหยดของน้ำมันต่างๆ หรือเปล่า ถ้ามีแสดงว่าอุปกรณ์ในห้องเครื่องของรถคุณกำลังมีปัญหา ให้รีบเอาเข้าอู่เพื่อเช็คอย่างละเอียดอีกทีค่ะ

ระบบช่วงล่าง

สามารถเช็คเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองก่อนค่ะ เช่น ลูกหมากปีกนกบน-ล่าง และลูกหมากปลายแร็ค วิธีการเช็คคือ โยกล้อ ด้วยแม่แรงที่ติดมากับรถอยู่แล้ว ปรับความสูงของล้อให้อยู่ในแนวขนานกับอก จากนั้นให้ผลักและดึงล้อ วิธีนี้จะช่วยตรวจสภาพของลูกหมากได้ว่าหลวมหรือไม่

โช้คอัพรถยนต์

ทั้งข้างหน้าและข้างหลังของรถ ให้ตรวจดูว่ามีรอยรั่วของน้ำมันออกมาไหม

กระจกรถ

การทำความสะอาดก็เหมือนที่ทำเป็นประจำ คือใช้น้ำเปล่าล้างเอาฝุ่นที่เกาะออกก่อน แล้วตามด้วยใช้น้ำยาเช็ดกระจกทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง และล้างด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ จากนั้นใช้ผ้าแห้งนุ่มๆ เช็ดกระจกให้แห้ง อย่าให้มีรอยคราบน้ำ หรืออาจจะเคลือบสารป้องกันฝ้าหรือน้ำฝนบนกระจกตามก็ได้

เบาะนั่ง

ต้องดูว่าวัสดุที่หุ้มเบาะเป็นชนิดไหน ถ้าเป็น เบาะหนังแท้ ตามปกติอาจแค่ใช้ผ้าเช็ดฝุ่นออก แต่หลังจากขับรถไปเที่ยวมาหลายวัน ต้องเจอฝุ่น ควัน ก็ควรที่จะใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยดูดฝุ่นที่เกาะอยู่บนเบาะ หรือฝุ่นตามซอกเบาะรถออกให้เรียบร้อย แล้วในการเช็ดทำความสะอาด จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับหนังโดยเฉพาะจะดีกว่า ส่วน เบาะหนังเทียมหรือไวนิล การทำความสะอาดไม่ยุ่งยาก เพราะมีความทนทาน แต่ก็ควรดูแลบ้าง ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆ แล้วนำไปเช็ดให้ทั่วทั้งเบาะ แต่จะให้ดีควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเอาเศษฝุ่น เศษทราย ตามซอก รอยพับ ออกด้วย ส่วนเบาะผ้า หากมีคราบสกปรกจากที่เครื่องดื่ม อาหาร หล่นใส่ ควรรีบทำความสะอาดให้เร็วที่สุด เพราะปล่อยทิ้งไว้จะฝังแน่น ยากต่อการทำความสะอาด โดยมีวิธีการคือ ให้ใช้น้ำอุ่นและน้ำยาทำความสะอาดขจัดรอยเปื้อน หลังจากนั้นควรแปรงผ้าอีกครั้งเพื่อรักษาสภาพของเบาะเพื่อยืดอายุการใช้งาน

ผ้าบุหลังคา

คราบต่างๆ ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดคราบออกให้สะอาด ถ้าหากมีฝุ่นเกาะก็อาจจะใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงไฟฟ้าสถิตที่สามารถดูดฝุ่นละอองได้

พื้นรถ

เช็คให้เรียบร้อยค่ะว่าไม่มีเศษขยะหล่นอยู่ที่พื้น หรืออยู่ใต้เบาะนั่ง เพราะบางทีอาจลืม ถุงขนม อาหาร ทิ้งไว้ พอบูดก็ส่งผลให้รถมีกลิ่นเหม็นได้ เพื่อให้พื้นรถสะอาดยิ่งขึ้น ควรนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดเอาพวกเศษดิน เศษทราย ออกให้เรียบร้อยด้วยค่ะ

หวังว่าวิธีการดูแลรถที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนนะคะ และสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันรถยนต์ 3+ คลิก ประกันรถยนต์ออนไลน์ DirectAsia

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด